สวัสดีครับทุกท่าน กลับมาอีกครั้งกับการทำ Build Variants ซึ่งวันนี้เราจะเล่นกันให้มากยิ่งขึ้น เพื่อการใช้งานจริงจะได้ไม่ลำบากนะครับ สิ่งที่เราจะทำในบทความนี้คือ การเปลี่ยนชื่อPackageName ตั้งแต่จุดแรก และ การทำ dependencies เฉพาะ packagename ที่สร้างขึ้นมา เริ่มกันเลย
การเปลี่ยนชื่อ PackageName ตั้งแต่จุดแรก
จากบทความ ทำชีวิตให้ง่ายด้วย Build Variants ที่เราทำกันไป จะเพิ่ม “com.kamonway.hellobuildvariants.production” กับ “com.kamonway.hellobuildvariants.develop” แต่ถ้าเราอยากจะเปลี่ยนตั้งแต่หลัง com. เลยล่ะจะทำยังไง คำตอบคือทำเหมือนเดิมนั้นแหละ กำหนด productFlavors เข้าไปเพิ่มตามปกติเลย แบบนี้
[xml] productFlavors {production {
applicationId "com.kamonway.hellobuildvariants.production"
}
develop {
applicationId "com.kamonway.hellobuildvariants.develop"
}
blog {
applicationId "com.thiskamonway.blog"
}
}
[/xml]
เราก็จะได้แอพที่มี PackageName ใหม่แล้ว แท่นแท๊นน
มาถึงการสร้าง Folder ก็คล้ายๆของเดิมคือ สร้างไว้ใน app->src โดยจะต้องตั้งชื่อ Folder ให้เป็นชื่อหลังจุดสุดท้าย ในที่นี้คือ blog จากนั้นก็เหมือนปกติเลยไม่ว่าจะ Folder java หรือ Folder res
เสร็จไปแล้วกับการเปลี่ยนชื่อPackageNameแบบ 360 องศา(ต้องโพสท่าด้วย)
การทำ Dependencies เฉพาะ packagename ที่ต้องการ
สมมติว่าเราทำ Build Variants หลายอันแล้วเกิดมีอยู่ 1 อันที่จะต้องใช้ library ที่ต่างออกไปเช่น มีอันนึงต้องการใช้ library graph ของ williamchart
วิธีทำง่ายมากแค่เอาชื่อ productFlavors มารวมกับ Complie ใน dependencies แบบนี้
[xml] dependencies {compile fileTree(dir: ‘libs’, include: [‘*.jar’])
compile ‘com.android.support:appcompat-v7:22.1.1’
blogCompile ‘com.diogobernardino:williamchart:2.0.1’
}
[/xml]
ถ้าอยากเปลี่ยนไปใช้ตัวอื่นก็เป็น productionComplie หรือ developComplie เท่านี้เราก็สามารถเรียกใช้ได้แล้ว ง่ายมั้ยล่ะ
สำคัญมาก ชื่อ+Compile ต้อง C ตัวใหญ่เท่านั้นนะ
สุดท้ายยยยยยย หวังว่าการทำ Build Variants จะทำให้ท่านผู้อ่านทำงานได้ง่ายขึ้นนะครับ แล้วพบกันใหม่