เดี๋ยวนี้ถ้าใครเล่นเกมบ่อยๆ จะรู้สึกได้ว่าเกมที่เล่นในช่วงปีที่ผ่านมา แทบไม่มีเกมไหนเลยที่มีระบบแลกเปลี่ยนกันเองระหว่างผู้เล่น หรือบางเกม อาจจะมีในตอนแรกแต่ได้มีการถอดระบบแลกเปลี่ยนออกไปในช่วงหลังก็มีให้เห็น วันนี้เราจึงจะมาวิเคราะห์กันว่า เหตุใด บริษัทเกมทั้งหลายจึงถอดระบบแลกเปลี่ยนระหว่างผู้เล่นออกไป

1. ป้องกันเงินเฟ้อ

สมัยนี้เกมส่วนใหญ่ไม่ว่าจะเป็น PC หรือมือถือมักจะเป็นแบบ Free to play หรือเปิดให้เล่นฟรีแล้วขายของในเกมแทนที่จะเป็นแบบ Air Time (เก็บค่าบริการในการเล่น เช่น เดือนละ xxx บาท) เหมือนสมัยก่อน แน่นอนว่าในการจูงใจให้ผู้เล่นใหม่เข้ามาเล่นเกมในช่วงแรกคือการแจกของในช่วงเริ่มต้นเยอะๆ แล้วถ้ามีผู้เล่นที่ขยันสมัครไอดีใหม่สัก 20-30 ไอดี (อย่าดูถูก Player เชียว มีคนทำจริงๆ) และนำของที่แจกเหล่านั้นมาโอนรวมกันที่ไอดีหลัก มันจะทำให้ของในตัวละครนั้นๆ เก่งขึ้นมาก และจะทำให้ของในเกมมันเฟ้อเร็วขึ้นกว่าปกติ ทำให้อายุของเกมสั้นลง และในบางเกมอาจจะมีของเฉพาะอาชีพ เช่น เราเล่นนักดาบ แต่ได้ของนักเวท ถ้ามีระบบแลกเปลี่ยน เราก็แค่ขายหรือไปแลกกับของนักดาบ แต่ถ้าแลกไม่ได้ เราก็ต้องไปฟาร์มใหม่จนกว่าจะได้ของอาชีพนักดาบ ทำให้เราต้องอยู่ในเกมนานขึ้น บริษัทเกมก็มีโอกาสที่จะได้รายได้จากคุณมากขึ้น

2. ป้องกันการขายเงินจริง ผู้เล่นแลกกันเองแล้วบริษัทได้อะไร

ปฏิเสธไม่ได้ว่า เดี๋ยวนี้การขายของในเกมด้วยเงินจริงก็เป็นที่นิยมกันมากขึ้น สมมติเราฟาร์มได้ของบอสมา แล้วประกาศขายออกมาเป็นเงินจริง บริษัทเกมก็ไม่ได้เงินส่วนแบ่งด้วยเลย แถมบางครั้งมีการโกงกันเกิดขึ้น เช่น โอนเงินไปแล้วไม่โอนของ ต้องลำบาก GM ไปตรวจสอบให้อีก บางเกมเลยตัดปัญหาด้วยการตัดระบบแลกเปลี่ยนทิ้งไปเลย มาซื้อกับตัวเกมดีกว่า แต่ถ้าของมันหายากจริงๆ เราก็มักจะขายกันยกไอดีอยู่แล้ว

3. ป้องกันพฤติกรรมไม่ค่อยพึงประสงค์

ถ้าเกมมีระบบแลกเปลี่ยน ก็จะมีผู้เล่นที่แสดงพฤติกรรมไม่ค่อยดีเข้ามาในเกมมากขึ้น โดยผู้เล่นบางคนก็ทำให้เกมน่าเล่นลดลงด้วยนิสัยไม่ดีบางอย่าง เช่น ปั้มไอดี เปิดบอท(โดยที่เกมไม่ได้อนุญาติให้ทำ) ยึดแหล่งฟาร์ม(หรือกลั่นแกล้งผู้เล่นอื่นไม่ให้ฟาร์มอย่างสงบสุข) แคมพ์บอส(ยึดที่ เฝ้าบอส หรือแกล้งเพื่อไม่ให้คนอื่นได้ตีบอส) ซึ่งเรามักจะเรียกผู้เล่นเหล่านี้ว่า Toxic Player และก็มีหลายเกมที่ล้มสลายเพราะผู้เล่นนิสัยไม่รับแขกแบบนี้มาเยอะแล้ว

4. ทำให้เราเสียดายไอดี

บางคนเล่นมาแล้วเป็นปีๆ มีของอย่างเทพเลย แต่มีเหตุจำเป็นให้ต้องเลิก แต่เนื่องจากการที่เราแลกเปลี่ยนไม่ได้ทำให้เราขายของในตัวตอนจะเลิกเล่นไม่ได้ จะขายยกไอดี บางทีก็ดันเป็น Facebook ส่วนตัว (ตอนเริ่มเล่นก็กะเล่นขำๆ แต่มันมือไปหน่อย) จะให้ Facebook ไปก็ใช่ที่ หรือบางคนสมัครไอดีมาด้วย Email ที่เป็นทางการของตัวเองจะขายก็ไม่ได้อีก เลยทำให้เราเสียดายของในตัว บางทีก็แวะเข้ามาเล่นบ้างเป็นครั้งคราว

5. กาชามันรายได้ดีกว่า

ส่วนใหญ่เกมสมัยนี้จะมีระบบสุ่มไอเทมในเกม หรือที่เราเรียกว่า กาชา ซึ่งมีหลายชื่อมาก Loot Box, Gift Box, หรือ Lucky Bag ระบบนี้เข้ามาเพื่อทดแทนรายได้ของระบบ Air Time เช่น Overwatch มี Loot Box, Rov มีสุ่มสกิน ซึ่งการสุ่มกาชาเป็นการเล่นกับสมองของคนเราแบบนึง เพราะเวลาเราไม่รู้ว่าของที่สุ่มมาจะเป็นอะไร มันจะไปกระตุ้นการทำงานของศูนย์ควบคุมโดพามีนในสมอง ทำให้เรามีความสุขและกระตุ้นให้เรารู้สึกว่า “พยายามอีกหน่อยน่า เราใกล้จะชนะ(หรือได้ของ)แล้ว” คนติดหวยก็อาการประมาณนี้แหละ

5.1 กาชาแบบมีก้น

กาชาแบบนี้แม้จำนวนในการสุ่มจะมากบ้าง น้อยบ้าง แต่จะมีจำนวนที่แน่นอนการันตีว่าเราจะได้ของหายากแน่ๆ ตัวอย่างเช่น เกม Yu-Gi-Oh Duel Links จะมีสุ่มเปิดซองการ์ด โดย 1 Box จะมี 200 ซอง ถ้าเราซื้อจนครบ 200 ซอง เราจะได้การ์ดใน Box นั้นทุกใบแน่นอน พูดแล้วก็น้ำตาจะไหล เหมือนเกมรู้ว่าเราอยากได้ใบไหน ใบนั้นมันชอบอยู่แถวๆ ก้นกล่องทุกที T T

5.2 กาชาแบบไร้ก้น

อันนี้บอกเลยว่าหนัก และมีหลายๆคนเสียเงินให้กาชาแบบนี้เยอะมาก (มีข่าวออกมาให้ได้ยินกันบ่อยๆ) เพราะมันไม่การันตีว่าเราจะได้ของที่เราต้องการเมื่อไหร่ แม้บางเกมประกาศอัตราดรอปไว้ก็ตาม แต่การสุ่มก็คือสุ่ม และเราก็ไม่รู้ว่าอัตราสุ่มที่เกมแสดงให้เราเห็น กับการสุ่มจริงๆ เป็นแบบนั้นจริงหรือไม่ ผมก็ได้แต่แนะนำว่า “เบามือหน่อยพี่ชาย เดี๋ยวจะไม่มีเงินกินข้าว”

เกมก็คือเกม

เกม สร้างมาเพื่อให้เราได้เล่นสนุก ฝึกทักษะและท้าทายตัวเอง จะสายฟรี สายเติมก็เอาเท่าที่เราและคนรอบข้างไม่เดือดร้อน และโปรดจำเอาไว้ว่า วันนึงเกมที่คุณเล่นก็ต้องปิดตัวลง เผื่อใจไว้ด้วยเมื่อวันนั้นมาถึง

สามารถติดตามข่าวสารได้ที่
Facebook Kamonway
Youtube Kamonway