Saturday, November 23

FiveFest กับพี่บอย วิสูตร แสงอรุณเลิศ

Google+ Pinterest LinkedIn Tumblr +

          เมื่อวันเสาร์ที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมาผมได้มีโอกาสไปร่วมงานสัมมนา FiveFestThailand ซึ่งเป็นงานที่รวบรวมเหล่าผู้ที่ทำตามความฝันและผู้ที่ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆของประเทศไทยเอาไว้ในงานเดียวกัน เพื่อให้ความรู้แก่ผู้ที่สนใจในด้านทั้ง 5 คือ Self-Development, Entrepreneurship, Investment, Creativity, Tech Start-Up

          ซึ่งการจัดงานจะแบ่งเป็นห้องต่างๆ ใครสนใจทางด้านไหนก็เดินเข้าไปนั่งฟังในห้องนั้นได้เลยครับ ซึ่งห้อง Self-Development ในรอบบ่ายนั้นเป็นรอบของพี่บอย วิสูตร แสงอรุณเลิศ นักเขียนและวิทยากรชื่อดัง

          พี่บอยพูดในหัวข้อเรื่อง การพาตัวเองจากจุดที่เราอยู่ให้ยังจุดที่ดีกว่าได้อย่างไร ซึ่งสามารถย่อเป็นวิธีจำง่ายๆให้ตรงกับชื่องานได้คือ F.I.V.E.F.E.S.T นั่นเองเรามาดูกันดีกว่าว่าแต่ละตัวคืออะไร

          

1. F = Faith ศรัทธาในตัวเอง

          คนเราจะเริ่มลงทุนในตัวเองได้ก็ต่อเมื่อเราเชื่อว่าตัวเองทำได้ เชื่อว่าชีวิตของเราสามารถจะดีขึ้นได้ พี่บอยเล่าว่าในวันที่ชีวิตดูแย่ ไม่มีอะไรดี พี่บอยเข้าห้องน้ำแล้วส่องกระจกมองหน้าตัวเองแล้วถามกับตัวเองว่า “นี่คือหน้าของคนขี้แพ้เหรอ นี่คือหน้าของคนไม่เอาไหนเหรอ” แน่นอนว่าคำตอบคือไม่ใช่ ดังนั้นพี่บอยจึงเริ่มเชื่อว่าเราสามารถพัฒนาตัวเองขึ้นมาได้ เราทำได้ สำหรับคนที่ยังมองไม่เห็นทาง พี่บอยได้ให้แนวทางเรียกความเชื่อเอาไว้ 3 ขั้นตอน
          1 ) List ข้อดีออกมา เพื่อนิยามตัวเองว่าเรามีดีอย่างไร เป็นคนแบบไหน ที่สำคัญให้ทำทุกวัน
          2 ) เขียนบันทึกเรื่องราวความสำเร็จในแต่ละวัน จะเล็กน้อยแค่ไหนก็ได้ เพื่อสะสมความเชื่อของเรา
          3 ) จงให้อะไรก็ได้กับผู้อื่นโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน เพื่อให้เรารู้สึกว่าเราเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น เราจะได้ความรู้สึกบางอย่างกลับมาเติมเต็มหัวใจของเรา

          

2. I = Investment ลงทุนในตัวเอง

          คนส่วนใหญ่เชื่อว่าเมื่อจบมหาลัยออกมาทำงาน เราก็ไม่ต้องเรียนรู้อะไรแล้ว ซึ่งนั่นเป็นความเชื่อที่ผิด เพราะคนที่จะประสบความสำเร็จได้จะต้องเรียนรู้ตลอดชีวิต เราอาจจะเรียนรู้เพื่อเสริมจุดแข็งของเราก็ได้ หรือเรียนรู้เพื่อป้องกันจุดอ่อนของเราก็ได้ และที่สำคัญเมื่อเราเจอปัญหาก็ให้หาคนที่เคยเจอปัญหาแบบนี้มาแล้ว ลองหาหนังสือมาอ่าน เข้าดูYoutube หาวิธีแก้ไขใน Google เพราะ “เราไม่ใช่คนแรกของโลกที่เจอปัญหานี้”
          ทุกครั้งที่ลงมือทำไม่มีใครยืนยันความสำเร็จได้ แต่ทุกครั้งที่เราอยู่กับที่ อีกไม่ช้าเราจะล้มเหลวแน่นอน
          พี่บอยแนะนำวิธีการลงทุนในตัวเองมาอีกเช่นเคย สำหรับคนที่ยังไม่เห็นช่องทาง
          1 ) ลงทุนในตัวเองให้ได้อย่างน้อย 10% ของรายได้ เช่นเอาไปซื้อหนังสือ เข้าสัมมนา ที่สำคัญต้องแบ่งมาก่อนเอาเงินไปใช้จ่าย ถ้าคิดว่าเหลือก่อนค่อยลงทุน รับรองไม่มีเหลือ เหมือนเป็นการจ่ายค่าเทอมให้ตัวเองอย่างสม่ำเสมอ
          2 ) ถามตัวเองทุกวันว่า “วันนี้ชั้นจะทำอะไรที่แม้แต่ตัวเราในอนาคตยังต้องมาขอบคุณ” ให้เราเลือกทำในสิ่งที่ส่งผลดีกับเราในอนาคต ไม่เช่นนั้นเราจะเรื่อยเปื่อยไม่สนใจอนาคต และที่สำคัญต้องทำอย่างสม่ำเสมอด้วย
          3 ) ถามตัวเองว่าปีนี้ติดตั้งทักษะอะไรที่ปีที่แล้วเรายังไม่มี หรือมีทักษะใดของเราเก่งขึ้นบ้าง หมั่นฝึกฝนทักษะเดิมหรือเพิ่มเติมทักษะใหม่ๆ บ้าง #คนดีคนเดิมเพิ่มเติมหน้าตา (อันนี้พี่บอยไม่ได้กล่าวไว้)
          4 ) อ่านหนังสือสัปดาห์ละ 1 เล่ม (ถ้าใครไม่ชอบอ่านหนังสือ เอาเป็นอย่างน้อยเดือนละ 1 เล่มก็ยังดี) ปีนึงเราก็จะอ่านได้ 50 เล่ม 10 ปี ก็อ่านได้ 500 เล่ม “ถามว่าหนังสือหลายร้อยเล่มจะเปลี่ยนชีวิตเราไม่ได้เลยเหรอ” คำตอบคือเปลี่ยนได้แน่นอน ที่สำคัญ ไม่ว่าเราจะทำหรือไม่ ยังไงเวลาในชีวิตเราก็ผ่านไปอยู่ดี จะดีกว่าไหม ถ้าเราทำให้ชีวิตตัวเองดีขึ้นพร้อมๆกับเวลาที่ผ่านไป

          

3. V – Value คุณค่าของชีวิต

          ถามตัวเราเองเสมอว่าอะไรคือสิ่งที่สำคัญสำหรับเรา อะไรคือสิ่งที่เราไม่ยอมสูญเสียมันไป บางคนอาจจะเป็นครอบครัว บางคนอาจจะเป็นความซื่อสัตย์ คำสัญญา เพราะเมื่อเรารู้ว่าอะไรสำคัญกับเรา เราจะรู้ว่าอะไรควรทำ อะไรไม่ควรทำ ใครที่ควรคุยด้วย ใครที่ไม่ควรคุย
          พี่บอยแนะนำว่าให้ใช้จินตนาการหลอกตัวเองว่า “ถ้าเรามีชีวิตได้แค่ 5 ปี อะไรคือสิ่งที่คุณจะทำ ใครคือสิ่งที่คุณ อยากอยู่ด้วย” หรือ “จินตนากรว่าชีวิตนี้ เราไม่มีข้อจำกัดทางการเงิน คุณจะทำอะไร”

          

4. E – Emotion อารมณ์

          ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนเราชอบทำอะไรตามอารมณ์ ถึงขนาดที่พี่หนุ่มเมืองจันท์บอกว่า “อารมณ์คือเหตุผลอย่างหนึ่ง” คนที่มีชีวิตที่ดีมักจะสามารถรักษาระดับอารมณ์ของตัวเองให้อยู่ในแดนบวกได้เสมอ และมักมีพูดติดปากคือ “ผมโชคดี” ส่วนอารมณ์เศร้ามักจะอยู่กับคนที่ไม่ชอบเคลื่อนไหว ฉะนั้นเมื่อมีอารมณ์ด้านลบก็ลองเคลื่อนไหว หาอะไรทำบ้าง ออกกำลังกายบ้าง
          สิ่งที่อันตรายกับเราจริงๆ คือเสียงบ่นของตัวเองเรา ยิ่งบ่นยิ่งแย่ แต่สำหรับคนที่อยู่ใกล้กับคนขี้บ่นมีวิธีจัดการ 2 แบบ คือ
          1 ) ทำตัวเราให้ดีขึ้นแล้วคนรอบข้างจะเปลี่ยนตามเรา (วิธีนี้ผมเคยมีประสบการณ์ ได้ผลจริงๆ)
          2 ) ถ้าคนรอบข้างไปเปลี่ยนตามเขาจะหลุดวงโคจรของเราไปเอง เหมือนที่บอกว่า “ศีลเสมอแล้วเจอกัน”

อ่านบทความย้อนหลังของพี่บอยได้ที่ www.boywisoot.com

อ่านบทความย้อนหลังของพี่บอยได้ที่ www.boywisoot.com

          

5. F – Focus คิดถึงสิ่งหนึ่งสิ่งใดตลอดเวลา

          เราจะเห็นปัญหาเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ต่อเมื่อสายตาเราจับจ้องไปที่เป้าหมาย และเมื่อเราเห็นเป้าหมายชัดเจนเท่าไหร่ เราก็มีแรงมีกำลังใจต่อสู้กับอุปสรรคมากเท่านั้น การทำงานก็เช่นกัน ถ้าเราโฟกัสหรือมีสมาธิกับการทำงาน เราก็สามารถทำงานได้ลื่นไหล ไม่สะดุด แถมยังเสร็จไวอีกด้วย
          Focus หลักๆที่พี่บอยใช้มีอยู่ 2 เรื่องคือ
          1 ) Focus ในการทำงานอย่างต่อเนื่องจนเสร็จ โดยจัดงานที่อยู่ประเภทเดียวกันให้รวมมาทำพร้อมๆกัน เช่น จัดชั่วโมงตอบอีเมลล์ไปเลย ไม่ควรตอบเช้าฉบับ กลางวันฉบับ เย็นฉบับ เราจะสามารถทำได้เร็วขึ้นเพราะกล้ามเนื้อจะมีความชำนาญ
          2 ) Focus ที่จุดแข็ง เสริมจุดแข็งของเราให้ดี เช่น คนเก่งทักษะขายก็ฝึกขายให้เก่งไปเลย แต่แน่นอนว่ายังไงคนเราก็มีจุดอ่อน ซึ่งเราก็ต้องชั่งใจดูว่าเราแก้ไขได้หรือไม่ ถ้าแก้ได้ก็แก้ ถ้าคิดว่าแก้ไขไม่ได้แน่ๆ เช่น ขายเก่งแต่ไม่เก่ง Design เลย เราก็ควรหาทีมที่มาเสริมด้าน Design อาจจะใช้ Outsource หรือ Freelance หรือตั้งทีมขึ้นมาก็ได้

          

6. E – Environment สิ่งแวดล้อม

          เพราะตัวเราคือผลผลิตจากสิ่งแวดล้อม เลือกคบคนดี คนเก่ง อย่าคบคนที่ทำให้เราสบายใจอย่างเดียว คบคนที่ทำให้เราลำบากใจในความก้าวหน้าบ้าง ละเว้นสื่อที่ไม่ดี ข่าวร้ายๆ หันมาดูสื่อดีๆที่มีสาระและช่วยพัฒนาชีวิตเรา เช่น อ่านหนังสือ ดู TED Talk อย่าเอาขยะมาใส่หัวและใจของเรา

          

7. S – Self Discipline การมีวินัยในตัวเอง

          คนที่มีชีวิตที่ดีมักจะเป็นคนที่สามารถควบคุมตัวเองได้ มีความรับผิดชอบในตัวเอง ไม่ต้องให้ใครมาสั่งว่าต้องทำอะไร เป็นนายของตัวเอง วิธีหนึ่งที่จะช่วยควบคุมตัวเราก็คือ สั่งตัวเอง โดยการใช้ Post It ตอนก่อนนอนให้เขียนสิ่งที่ต้องทำในวันพรุ่งนี้ (To do list) ว่าจะทำอะไรบ้าง เมื่อทำเสร็จก็ขีดฆ่ารายการนั้นไป ไม่ใช่ตื่นมาแล้วถามว่า “ทำอะไรดีวะ”
          ถ้าเราอยากสร้างนิสัยอะไรขึ้นมาต้องใช้เวลาอย่างน้อย 21 วันในการสร้าง แต่ถ้าเราทำทุกวันติดต่อกันเกิน 21 วันได้เราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจนและนิสัยนั้นก็จะคงอยู่ไปอีกนาน

          

8. T – Thank you

          คนเรามักมองไม่เห็นในสิ่งที่ตัวเองมี แต่ดันมองเห็นแต่สิ่งที่ตัวเองไม่มี เช่น เรามักมองว่าเราเงินเดือนน้อยกว่าคนนั้นคนนี้ แต่ไม่ได้คิดเลยว่าเงินเดือนตัวเองมากกว่าค่าแรงขั้นต่ำตั้งเยอะ แต่เราไม่เห็น ดังนั้นให้เราขอบคุณสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นกับเราในทุกๆวัน อย่างน้อยวันละ 5 อย่าง เพื่อให้เราเห็นในสิ่งที่เรามีมากยิ่งขึ้น และมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น

หนังสือที่พี่บอยแนะนำให้ลองหามาอ่าน

หนังสือที่พี่บอยแนะนำให้ลองหามาอ่าน

          ครบกันไปแล้วสำหรับหลักการ F.I.V.E.F.E.S.T ของพี่บอย วิสูตร แสงอรุณเลิศ แต่เดี๋ยวก่อน อ่านแล้วอย่าอ่านเลยแล้วปล่อยผ่าน เพราะอ่านแล้วไม่ทำก็ไม่ได้ช่วยอะไรให้ชีวิตมันดีขึ้น อ่านแล้วต้องลงมือทำด้วยจึงจะสำเร็จ แต่ถ้าคิดว่าสิ่งที่อ่านมันไม่จริงหรอก ทำแค่ 8 ข้อแค่นี้ชีวิตมันจะไปดีได้ยังไง ผมก็ขอยกคำพูดของพี่บอยมาเลยแล้วกันว่า…

“เอาที่สบายใจ”

================
บอย วิสูตร แสงอรุณเลิศ
ติดตามได้ที่ www.boywisoot.com
หรือ Facebook Boy’s Thought
เป็นเพื่อนกันได้ที่ LINE : @boywisoot.com

Facebook Comments
Share.

About Author

สวัสดีครับ ผมไอซ์ กมลวัฒน์ ผู้ก่อตั้งช่อง Youtube Kamonway และเว็บไซต์ kamonway.com เพื่อช่วยแนะนำความรู้จากเกม และเป็นช่องทางที่ช่วยให้ทุกท่านเล่นเกมอย่างสนุกสนานยิ่งขึ้น

Comments are closed.