หากเราเคยดูหนังจีนมักจะมีวิชาตัวเบาที่ทำให้ผู้คนเหาะเหินได้ แต่เบื้องหลังการถ่ายทำนักแสดงต้องผูกเชือกสลิงไว้กับตัวแล้วให้เชือกดึงขึ้นไป
หากเปรียบตอนเหินฟ้าเหมือนกับเวลาพักผ่อนหรือเวลาที่จะทำในสิ่งที่อยากทำแล้วล่ะก็ คนที่ประสบความสำเร็จคงมีเชือกสลิงเป็นสิบๆเส้นทำให้เขาบินได้นานกว่าคนธรรมดาที่มีรายได้ทางเดียวแน่นอน แถมบางคนยังไม่ใช่เชือกสลิงด้วยแต่เป็นเชือกฟาง
ถ้าเราไปศึกษาวิธีคิดของคนที่ประสบความสำเร็จจะพบว่าทุกคนนั้นไม่เคยมีรายได้ทางเดียวเลย บางคนยังมีงานประจำหรือบางคนก็ไม่มีงานประจำ แต่พวกเขามีรายได้มากกว่า 2 ทางทุกคน เช่น เงินปันผลจากหุ้น กองทุนรวมต่าง ค่าเช่าบ้าน ลิขสิทธิ์หนังสือ ลิขสิทธิ์software
บางคนมีรายได้มากกว่า 10 ทาง
คนส่วนใหญ่มักจะมีรายได้ทางเดียวคือเงินเดือน เรียกว่าฝากชีวิตไว้กับเงินเดือนเลยก็ว่าได้ ถ้าวันไหนหัวหน้าเดินเข้ามาพร้อมซองขาวเมื่อไหร่(ซึ่งมันเกิดขึ้นได้ทุกเวลา ไม่ว่าจะด้วยเศรษฐกิจหรือการปรับโครงสร้างบริษัท) ก็ไม่ต่างอะไรกับเชือกสลิงที่ผูกไว้ขาด ตกลงมาก็คงเจ็บไม่น้อย เผลอๆตกผิดอาจถึงกับจบชีวิต
ฉะนั้นอย่ามัวแต่คิดว่ารายได้ทางเดียวของเรานั้นมั่นคงแล้ว เพราะชีวิตข้างหน้ายังมีอะไรที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ซึ่งเราก็ไม่อาจจะล่วงรู้ได้เลย แต่เราสามารถเตรียมตัวป้องกันเอาไว้ได้ อย่างน้อยจากหนักก็กลายเป็นเบา
ผมเชื่อว่าคนที่กำลังอ่านบทความนี้คงตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นแบบไหนระหว่างมีสลิงเป็น 10 เส้นกับแบบเชือกฝาง 1 เส้น มันอาจเหนื่อยแต่เราเหนื่อยโดยที่เราเตรียมใจมาแล้ว ดีกว่าโดนบังคับให้เหนื่อยตอนเชือกสลิงขาดนะครับ