“Today reader tomorrow leader” โดย Maegaret Fuller
แค่เห็นก็เท่แล้วใช่มั้ยล่ะครับ ผมเห็นประโยคนี้ตอนไปนั่งเล่นที่ TK Park (ถ้าใครไม่รู้จัก TK Park ลองไปดูสักครั้งนะครับอยู่ที่ Cental World คล้ายๆกับห้องสมุด) แปลตรงว่า “ผู้อ่านในวันนี้คือผู้นำในวันพรุ่งนี้” ผมลองยืนคิดๆดูมันก็จริงแฮะ เพราะการอ่านหนังสือจะทำให้เราได้ความรู้ที่คนอื่นสรุปมาให้แล้วไม่ต้องไปเสียเวลาลองผิดลองถูกเองมากนัก
วันนี้ผมเลยจะมาสรุปข้อดีคร่าวๆ ที่ผมคิดได้ให้ฟังกันเล่นๆนะครับ ว่าการอ่านหนังสือมันดีอย่างไร
1. ความรู้ราคาถูก เพราะหนังสือโดยมากแล้วจะมีราคาเล่มนึงประมาณ 150 – 300 เท่านั้นเอง เรียกว่าน้อยมากๆ ถ้าเทียบกับเวลาที่ผู้เขียนได้ลงมือทำแล้วเอาสาระความรู้มาสรุปให้ หรืออย่างพวกประวัติของคนที่ประสบความสำเร็จนี่คุ้มๆสุดเพราะคนธรรมดาเขาคงไม่มีเวลามานั่งเล่าประวัติชีวิตให้เล่าฟังได้เป็นชั่วโมงๆหรอกครับ อ่านเอานี่แหละ ง่ายสุด แถมชอบคุณไหนก็ซื้อมาอ่านได้เลยทุกที่ทุกเวลา
2. เปิดโลก เป็นอีกข้อนึงที่สำคัญเพราะการอ่านจะทำให้เราได้มุมมองที่แตกต่างจากที่เราเจอในชีวิตประจำวัน ทำให้เราเรียนรู้วิธีคิด วิธีทำของคนอื่นได้ เช่น หนังสือแนวพัฒนาตนเอง ที่สอนให้เรามองในมุมที่แตกต่างเพื่อให้ชีวิตเราก้าวหน้ายิ่งขึ้น
3. ทันโลก เดี๋ยวนี้มีหนังสือออกใหม่ทุกวัน ไม่ต้องรอเป็นเดือนๆแบบแต่ก่อนแล้ว ยิ่งพวกบทความใน Internet นี่ยิ่งออกมาเป็นรายนาทีเลยทีเดียว ความรู้สดใหม่ที่เข้ามาทุกวันทุกชั่วโมงทุกนาที ทำให้เรารู้ว่าโลกนี้ก้าวหน้าและเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร
4. ประหยัดเวลา เพราะหนังสือเช่นแนวพัฒนาตนเอง (ดีๆ ส่วนใหญ่) จะมาจากหลักการและวิธีการที่พิสูจน์แล้วว่าใช้ได้ผลจริง ทำให้เราประหยัดเวลาไปต้องไปลองผิดลองถูก
5. ได้แบ่งปันให้กับคนอื่น ปกติพอเราเจอหนังสือดีๆก็มักจะแนะนำให้คนอื่นอ่านได้ ซึ่งทั้งเราและคนรอบข้างก็จะได้รับประโยชน์จากการอ่าน นอกจากนี้ยังเอาหนังสือที่ไม่ใช้แล้วไปบริจาคได้อีกด้วย
เป็นไงกันบ้างครับ ข้อดีของการอ่าน วันนี้เราลองหยิบหนังสือที่เคยคิดจะอ่านแต่ซื้อมาแล้วไม่ได้แตะขึ้นมาอ่านกันสักเล่มนะครับ อย่าปล่อยให้มันนอนเหงาอยู่อย่างนั้นเลย หนังสือจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อมีคนอ่านมันนะครับ