“ถ้าเงินเดือนออกนะ ว่าจะเอาไปถอย Iphone6 สักเครื่อง เพราะไอ้สองเครื่องที่ใช้อยู่มันเก่าแล้ว ตกรุ่นไปแล้ว อยากได้ใหม่ๆ แล้วก็ต้องจองที่พักอีก สำหรับไปเที่ยวต่างจังหวัดกับเพื่อนๆ จากนั้นก็ไปจัดบุฟเฟ่ต์หรูๆ สักหน่อยฉลองเงินเดือนออก แล้วเงินที่เหลือค่อยเอาไปโปะบัตรเครดิต เพราะมันเริ่มเต็มวงเงินแล้ว อุตส่าห์สมัครมาตั้งหลายใบยังจะเต็มอีก”
ผมได้ยินนี่ถึงกับลุกขึ้นยืนเลยครับ มีแผนการเงินที่ดีมาก วางแผนตั้งแต่เงินยังไม่ออก เรียกว่าเตรียมการพร้อมสรรพ มีขั้นมีตอน แต่เฮ้ย… นี่ไม่ใช่แผนการเงินแล้ว นี่มันแผนการใช้เงินนี่หว่า วางแผนขนาดนี้อย่าว่าแต่รวยเลยครับ แค่มีเงินใช้ตอนฉุกเฉินยังลำบากเลย เล่นไม่คิดจะเก็บเงินเลย
ผมคิดว่าคงเป็นแบบนี้กันหลายคนนะครับ เพราะแค่รอบๆตัวที่ผมรู้จักก็หลายคนแล้ว ตอนผมจบมาใหม่ๆ ได้เงินเดือนมาผมก็เป็นครับ คือเงินเดือนทั้งหมดมีเท่าไหร่ใช้เรียบเลย โชคดีที่อย่างมากก็แค่เดือนชนเดือนไม่ถึงกับเป็นหนี้ แต่ก็ไม่มีเงินเก็บ
ผมใช้ชีวิตแบบนี้ไปเรื่อยๆ จนกระทั่งผมได้เจอหนังสือเปลี่ยนชีวิตครับ หนังสือที่เปลี่ยนชีวิตผมมีชื่อว่า “การลาออกครั้งสุดท้าย” โดยคุณ ภาณุมาศ ทองธนากุล ในหนังสือพี่เขาเล่าเรื่องของสิ่งที่มนุษย์เงินเดือนทุกคนพบเจอ ไม่ว่าจะเป็นความน่าเบื่อ ความเครียด ความมั่นคงที่ไม่มั่นคง และอื่นๆ ทำให้ผมมาลองนึกๆ ดูว่า คนรอบๆตัวเราก็ทำงานแบบนี้กันมาตลอด บางคนทำจนเกือบจะเกษียนก็มี แล้วผมจะต้องมีชะตากรรมแบบเขาเหรอ ผมจึงได้ถามตัวเองว่าเราอยากจะมีชีวิตแบบนั้นไปทั้งชีวิตไหม
คำตอบของผมคือ ไม่!!!
ผมไม่ยอมให้ตัวเองต้องมีชะตากรรมแบบนั้นแน่นอน ตั้งแต่วันนั้นผมก็เริ่มพัฒนาตัวเอง เปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง พัฒนาทักษะของงานประจำฝึกให้ตัวเองเก่งขึ้น พัฒนาความรู้ด้านการเงิน พยายามเก็บเงินให้ได้ และพยายามสร้างรายได้ทางที่ 2 เพื่อเอาไว้รองรับหากวันใดเราทำงานประจำไม่ได้ หรือจำเป็นต้องใช้เงิน จากที่เคยอ่านแต่หนังสือการ์ตูนและนิยาย กลับกลายมาเป็นชอบอ่านหนังสือแนวพัฒนาตนเอง
หลังการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันดังกล่าว ผมรู้สึกได้ว่าชีวิตของผมดีขึ้นมากเลย แม้ผมจะยังเป็นมนุษย์เงินเดือนเหมือนเดิม และยังทำงานหนักเท่าเดิม แต่ผมรู้สึกว่าทำงานแล้วมีความสุขมากขึ้น เพราะใจเรายึดมั่นกลับเป้าหมายเป็นหลัก เหนื่อยเท่าเดิมแต่สบายใจขึ้น มีเงินเก็บมากขึ้น และเริ่มมีรายได้ทางที่ 2 แม้จะเล็กน้อยแต่ก็เป็นการเริ่มต้นที่ดี
แม้ตอนนี้ผมจะยังไม่รวย ยังไม่ได้มีเงินล้าน แต่ผมเชื่อว่าถ้าพัฒนาตนเองให้เก่งขึ้นทั้งด้านทักษะการทำงานและการเงิน อนาคตผมดีแน่นอน ผมลองดูแล้วว่ามัน Work จริงๆ ผมเลยอยากจะชวนทุกคนมาเปลี่ยนพฤติกรรมด้วยกัน
“ความรวยเป็นเรื่องของพฤติกรรม ไม่ใช่ชะตากรรม”
วิชญ์ แห่ง vittarot
